วันหนึ่งในปี ค.ศ. 1866 ขณะที่เด็กชาย Erasmus StephanusJacobs วัย 15 ปี ซึ่งเป็นลูกชาวนาในชนบทของแอฟริกาใต้ ได้ออกจากบ้านไปเล่นตามปกติ แล้วเกิดเหลือบไปเห็นหินก้อนหนึ่ง ส่องแสงเปล่งประกายแวววาวระยิบระยับอยู่ข้างแม่น้ำออเรนจ์ เด็กชายเห็นว่าสวยดีจึงนำกลับมาบ้าน คุณแม่ของเขาก็เอามาเป็นที่ทับกระดาษ วันเวลาผ่านไปไม่นาน มีเพื่อนบ้านมาเห็นเข้า จึงขอซื้อต่อ และนำส่งไปทดสอบ ก่อนจะทราบภายหลังว่าหินสวยงามก้อนนี้คือ...ผลึกเพชร
ผลึกเพชรก้อนนี้ ถูกนำไปเจียระไน และได้รับตั้งชื่อในภายหลังว่า เพชรยูเรกา (Eureka Diamond) ซึ่งมีน้ำหนักถึง 21.25 กะรัต การค้นพบเพชรยูเรกาครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบเพชรครั้งแรกในแอฟริกาใต้
หลังจากนั้นแอฟริกาใต้ก็โด่งดัง และก้าวเข้าสู่ยุคทองของการ “ขุดเพชร” (Diamond Era) ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงจากการที่ผู้คนสนใจในยุคขุดทอง ก็หันมาลงทุนและให้ความในใจในเพชรมากขึ้น
ขณะเดียวกันนั้นเอง Mr.Barney Barnato ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวย และ Mr.Cecil Rhodes ที่ทำธุรกิจจำหน่ายน้ำแข็งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ได้เห็นถึงโอกาสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมเพชร ทั้งคู่จึงได้ร่วมกันก่อตั้ง บริษัท De Beers Consolidated Mine ขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน เราจะรู้จักกันดีในชื่อบริษัท The Diamond Trading Company (DTC) นั่นเอง
หลังจากบริษัท DTC ได้ขุดค้นพบเพชรในปริมาณที่มากพอควรแก่การจำหน่ายแล้ว จึงแนะนำเพชรให้ทั่วโลกได้รู้จัก เสน่ห์ของเพชรนั้นเรียกได้ว่าดึงดูดให้เหล่ากษัตริย์, ข้าราชการชั้นสูง, เศรษฐี และนักแสดงที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย ต่างต้องการเพชรไว้ในครอบครองกันเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดประโยคยอดนิยมที่ว่า เพชร…เลอค่าอมตะ “A diamond is forever” และ เพชร คือเพื่อนที่ดีที่สุดของสตรี “Diamonds are a girl’s best friend” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาค่ะ